สำหรับรถยนต์ ECO CAR เป็นรถยนต์ที่หลายคนเชื่อว่านี่แหละที่จะมาช่วยเหลือในยุคที่น้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาแพงขึ้น แต่ในยุคปัจจุบันนี้การมาถึงของรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV แต่ถ้าคุณคิดว่ายังไม่พร้อม รถ ECO CAR นี่ล่ะที่จะเป็นตัวเลือกที่เหมาสมที่สุดนั่นก็เพราะ ประหยัดน้ำมัน เนื่องจากมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 1 ลิตรสามารถวิ่งได้ระยะทาง 20 กิโลเมตรขึ้นไป, อัตราการปล่อยมลพิษต้องอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด, มีมาตรฐานความปลอดภัยเนื่องจากต้องได้รับมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป และ เครื่องยนต์เบนซินมีความจุไม่เกิน 1.3 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซลมีความจุไม่เกิน 1.5 ลิตร จึงเหมาะกับลูกค้าที่เพิ่งเริ่มทำงาน, เพิ่งจะมีรถคันแรก, ผู้ปกครองที่กำลังมองหารถยนต์ให้บุตรหลาน และคนที่กำลังมองหารถขนาดเล็กไว้ใช้งาน โดยในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ที่จะถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 มีนาคม - 2 เมษายน 2566 นี้ จะมีรถ ECO CAR รุ่นไหนน่าจับจองบ้างนั้น มาดูกันเลยครับ
HONDA
HONDA CITY ราคา : 579,500 - 739,000 บาท
HONDA CITY HATCHBACK ราคา : 599,000 - 749,000 บาท
HONDA ในประเทศไทยเป็นรถที่คนให้ความนิยมไม่แพ้กับแบรนด์คู่แข่งอย่าง TOYOTA แต่สำหรับ HONDA ก่อนหน้านี้เคยมี BRIO เป็นรถ ECO CAR ที่มากับตัวถังแบบ 5 ประตู กับเครื่องยนต์ i-VTEC 1.2 ลิตร จนเมื่อทางแบรนด์ได้เปิดตัว CITY มาเป็นรถ ECO CAR เรียกว่าขยับรถในกลุ่ม B-SEGMENT มาสู้ตลาด ECO CAR ด้วยดีไซน์สวย บวกกับความสปอร์ต และภายในกว้างขวาง และมีระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ ADAVANCED TOUCH (ในรุ่น RS) ทั้งยังพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ใหญ่มาก ที่สำคัญสำหรับคนชื่นชอบเล่นรถ HONDA ก็คือมีอุปกรณ์ตกแต่งเพียบนั่นเอง ทั้งยังมีตัวถังให้เลือกทั้งแบบ SEDAN และ HATCHBACK ที่สำคัญยังมากับเครื่องยนต์ DOHC 3 สูบ VTEC TURBO ขนาด 1.0 ลิตร ให้กำลัง 122 แรงม้า
นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่เป็นระบบ
e:HEV หรือ ระบบขับเคลื่อนฟลูไฮบริด มีประสิทธิภาพสูงเพื่อการขับขี่ด้วยอัตราประหยัดน้ำมันถึง 27.8กม. /ลิตร (ทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฎิบัติการ) แม้จะมากับเครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร (ถึงจะไม่เข้าเงื่อนไขการเป็น ECO CAR แต่ก็ให้ความประหยัดเป็นเยี่ยม) ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า แถมด้วยระบบความปลอดภัย HONDA SENSING ในสเต็ปเดียวกับใน ACCORD HYBRID และสิ่งอำนวยความสะดวกสบายแบบล้นคัน จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ส่วนราคา
e:HEV RS (SEDAN) ราคา 839,000 บาท และ
e:HEV RS (HATCHBACK) ราคา 849,000 บาท
MAZDA
MAZDA 2 SEDAN ราคา 546,000 - 799,000 บาท
MAZDA 2 HATCHBACK ราคา 546,000 - 799,000 บาท
เรียกว่ายังคงเป็นรถที่มีความสวยงามที่สุดเพราะ MAZDA 2 ยังคงมากับแนวคิดการออกแบบที่เรียกว่า KODO DESIGN แม้ว่าจะเป็นโฉมที่เปิดตัวมานาน ล่าสุดก็มีข่าวว่าในญี่ปุ่นมีการปรับโฉมไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้ กับขุมพลังเครื่องยนต์ SKYACTIVE ที่ขับสนุกสมราคา เพราะมีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIVE-G ขนาด 1.3 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIVE-D ขนาด 1.5 ลิตร
ทั้งยังมีรุ่นพิเศษ CARBON EDITION มาเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมให้กับคนที่กำลังเล็งรถ ECO CAR คันรุ่นนี้อยู่ ทั้งยังผ่านการออกแบบเพื่อสร้างความแตกต่าง ด้วยภายนอกตัดกับสีโทนเข้มเรียบหรูสไตล์สปอร์ต, กระจกมองข้างสีดำ และล้ออัลลอยสีดำ ภายในห้องโดยสารตกแต่งพิถีพิถันทุกรายละเอียด ด้วยเบาะหนังสีแดง Burgundy ในราคา 699,000 บาท
MITSUBISHI
MITSUBISHI ATTRAGE ราคา 494,000 -543,000 บาท
เป็นอีกหนึ่ง ECO CAR SEDAN ที่มีดีไซน์เดียวกันกับรถรุ่นอื่นๆ ของ MITSUBISHI โดยใช้กระจังหน้า ADVANCED DYNAMIC SHIELD ตกแต่งด้วยเส้นสีแดง พร้อมกับตกแต่งภายในแบบสปอร์ต มากับเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ให้อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ถือว่าว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมี รุ่น SPECIAL EDITION มาให้เป็นทางเลือกด้วย
MITSUBISHI MIRAGE ราคา 474,000 - 579,000 บาท
เป็นหนึ่งรถ ECO CAR จาก MITSUBISHI ด้วยขนาดเล็กน่ารัก แต่แฝงไปด้วยความสปอร์ตรอบคัน ทั้งยังมี MIRAGE RALLIART ที่มาสานต่อ DNA สายเลือดแชมป์ด้วยกับการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมากจากรถแข่งแรลลี่ ตกแต่งภายในแบบทูโทนสีแดง-ดำ พร้อมฟังก์ชันความสะดวกสบายครบครัน ให้อัตราแร่งแรงทันใจ แต่ประหยัดน้ำมันสูงสุดจากเครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC 1.2 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี MIVEC (MITSUBISHI INNOVATIVE VALVE TIMING ELECTRONIC CONTROL SYSTEM) ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำ ทำให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน ลดมลพิษ รักษาสิ่งแวดล้อม ผสานช่วงล่างที่ยึดเกาะถนนดีเยี่ยม เพื่อให้ทุกการขับขี่ คล่องตัวมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว
NISSAN
NISSAN ALMERA ราคา 515,000 - 695,000 บาท
จัดว่าอีกหนึ่งทางเลือกในกลุ่ม ECO CAR ที่น่าสนใจ ในอดีตก็เคยมี MARCH เป็นตัวยืนอยู่ของ NISSAN ในกลุ่มรถประเภทนี้มานาน จนเมื่อ ALMERA มาเป็นตัวแทน ด้วยเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้สมรรถนะเหมาะกับทุกการขับขี่ เพื่อประสบการณ์ความสนุกเร้าใจสำหรับทุกเส้นทางของคุณ ทั้งยังมีทางเลือกให้ลูกค้าในหลายรุ่นย่อย พร้อมอุปกรณ์รวมถึงออปชั่นด้านความปลอดภัยแบบจัดเต็มในเกือบทุกรุ่นย่อย ที่สำคัญยังให้อัตราสิ้นเปลืองถึง 23.3 กิโลเมตร / ลิตร
นอกจากนี้ยังมี 70TH ANNIVERSARY ที่มีการตกแต่งเพื่อฉลองครบรอบ 70 ปี ทั้ง สติกเกอร์ตกแต่งกระโปรงหน้า, สติกเกอร์กระจกมองข้าง, ชุดพรมผ้ายางปูพื้น และ โลโก้ 70TH ANNIVERSARY ด้านท้ายรถ ทำให้ดูจะสุดคุ้มค่ามากที่สุด
TOYOTA
TOYOTA YARIS รุ่นปรับปรุงโฉม ปี 2566 ราคา 559,000 - 694,000 บาท
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ทำการแนะนำรถยนต์
TOYOTA YARIS รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่นี้ เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์นั่งขนาดเล็กในประเทศไทย ด้วยดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ พร้อมสมรรถนะการขับขี่คล่องตัว และมีจุดเด่นที่ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน ที่สำคัญเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถยนต์โตโยต้า
Toyota Safety Sense โดยยังคงรักษาจุดแข็งของคอมแพคแฮทช์แบ็คไว้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความประหยัดน้ำมัน, ความนุ่มนวล และคล่องแคล่วในการขับขี่, ห้องโดยสารนั่งสบาย เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย และครั้งนี้เรายังได้เสริมจุดเด่นของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตอบรับแอคทีฟไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยราคาจำหน่ายของ YARIS รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ ปี 2566 มีดังนี้
- รุ่น SPORT ที่มาพร้อมไฟหน้า Projector LED และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ราคา 559,000 บาท
- รุ่น SMART โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วย Push Start & Smart Entry และหน้าจอสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว ราคา 619,000 บาท
- รุ่น PREMIUM ครบครันด้วยหน้าจอสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว BSM RCTA และกล้องมองรอบคัน ราคา 679,000 บาท
- รุ่น PREMIUM S ภายในสีทูโทน แดง-ดำ ภายในสีแดง และวัสดุตกแต่งเพิ่มเติมภายนอก ราคา 694,000 บาท
หมายเหตุ ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
TOYOTA YARIS ATIV ราคา 549,000 - 699,000 บาท
แบรนด์เจ้าตลาดอย่าง TOYOTA ก็มี YARIS ATIV ที่เป็นรูปทรง SEDAN ยอดรถ ECO CAR ที่มากับเครื่องยนต์ 3NR-VE 4 สูบ DOHC แบบ Dual VVT-iE 1.2 ลิตร ที่มากับรูปทรง สมรรถนะ และออปชัน ให้มาแบบจุกๆ เรียกว่าจัดเต็มถ้าหากใครกำลังมองหา ECO CAR ก็ไม่ควรพลาดที่จะพิจารณา YARIS ATIV มาเป็นตัวเลือกแรกๆ เลยทีเดียว
SUZUKI
SUZUKI CELERIO ราคา 338,000 - 442,000 บาท
ถือว่าเป็น ECO CAR น้องเล็กของ SUZUKI แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นรถที่มีคุณภาพเกินตัว สมกับที่ SUZUKI เป็นผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มรถประเภท ECO CAR โดยจะมากับเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร (K10B) สามารถประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กิโลเมตร/ลิตร โดยชู 3 จุดเด่น ห้องโดยสารกว้างขวาง, หลังคาที่สูง และสมรรถนะเกินตัว
SUZUKI CIAZ ราคา 528,000 - 678,000 บาท
เป็นรถ ECO CAR SEDAN ที่มากับเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร (K12B) ที่ยังมากับแนวคิด “สัมผัสใหม่ สบายทุกมิติ” โดยที่ไม่ทิ้งลวดลายความเป็นสปอร์ต ทั้งภายนอกสมาร์ททุกมุมมองด้วยชุดแต่งโครเมียมสไตล์สปอร์ตรอบคัน ปราดเปรียว ในทุกมุมมองและภายในฉีกกฎมิติห้องโดยสาร ด้วยความกว้างที่สัมผัสได้ โดยยังสามารถประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 20 กิโลเมตร/ลิตร เหมาะมากๆ สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งหัดขับรถ
SUZUKI SWIFT ราคา 567,000 - 637,000 บาท
SWIFT มากับดีไซน์น่ารัก แต่แฝงความสวยสปอร์ต เหมาะกับการใช้ในเมืองเป็นอย่างมากเพราะขับสนุกด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร (K12M) ทำให้ได้รถที่ขับขี่ง่ายคล่องตัว อัตราสิ้นเปลืองก็ทำได้ดีระดับ 20 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนออปชันก็มีมาให้เพียงพอต่อการใช้งาน สำหรับท่านที่ต้องการจะนำไปตกแต่งก็ทำได้ไม่ว่าจะแนว RACING และ RETRO นับว่าเหมาะมาก นี่เองที่ทำให้ยังคงเป็น ECO CAR ที่ยังได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องไม่แพ้รถระดับเดียวกันจากค่ายอื่น ๆ เลยทีเดียว
และล่าสุด ซูซูกิ ได้แนะนำ
SUZUKI SWIFT GL NEXT ที่มากับคอนเซ็ปต์ NEXT to the edge ขับสนุกเต็มขั้น เร้าใจเกินพิกัด ถูกปรับปรุงด้วยชุดตกแต่ง GL NEXT ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก SWIFT GL ยกระดับการดีไซน์ภายในกับการตกแต่งใหม่ด้วยลายเคฟลาร์ ตรงบริเวณคอนโซลและแผงประตูด้านข้าง พร้อมปรับใหม่ จอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เครื่องเล่นวิทยุที่สามารถรองรับการเล่นไฟล์ MP3, WMA เติมเต็มความบันเทิงในการขับขี่ พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooh และเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ทำให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อตลอดการเดินทาง ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape จับกระชับมือเพิ่มพื้นที่วางขาและปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งโอบกระชับสรีระ
จำหน่ายในราคาเพียง 582,000 บาท และนี่คือรถ
ECO CAR ที่
เช็คราคา.คอม ที่นำข้อมูลมาให้ผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ที่เน้นความประหยัด แต่อย่างไรก็ดีผัสรถคันนั้นๆ ด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่ารถคันนั้นเหมาะกับคุณ และครอบครัวหรือไม่ สำหรับใครที่สนใจก็สามารถไปชมได้ที่งาน
บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ที่จะถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่
22 มีนาคม - 2 เมษายน 2566 นี้
เกาะติดงาน Bangkok International Motor Show 2023 ผ่านช่องทางต่าง ๆ